เวลาคุณทำงานกับข้อมูลจำนวนมากใน Excel เช่น รายชื่อลูกค้า, เบอร์โทรศัพท์, อีเมล หรือรหัสสินค้า ปัญหาที่เจอบ่อยคือ ค่าซ้ำ (Duplicate Values). ถ้าไม่จัดการให้ดี อาจทำให้เกิดความผิดพลาดในการวิเคราะห์ข้อมูล เช่น ยอดขายซ้ำซ้อน หรือติดต่อซ้ำกับลูกค้า. บทความนี้จะสอนวิธีใช้ สูตร Excel หาค่าซ้ำ ที่ทั้งง่ายและทรงพลัง ทั้งด้วย COUNTIF, Conditional Formatting, และ UNIQUE.

🔥 ทำไมต้องหาค่าซ้ำ?
- ป้องกันข้อมูลซ้ำในฐานข้อมูล เช่น รายชื่อลูกค้า
- ลดข้อผิดพลาดในรายงานยอดขายหรืองบการเงิน
- ช่วยทำ Data Cleaning ก่อนนำไปใช้วิเคราะห์
🕒 ใช้สูตรนี้เมื่อใด
- ต้องการตรวจสอบว่ามีค่าใดซ้ำในคอลัมน์
- ต้องการนับจำนวนที่ค่าซ้ำปรากฏ
- ต้องการลบหรือแยกข้อมูลซ้ำออกจากชุดข้อมูลหลัก
⚡ วิธีใช้สูตรหาค่าซ้ำใน Excel
1) ใช้สูตร COUNTIF
=COUNTIF(A:A, A2)
ถ้าผลลัพธ์ > 1 หมายความว่า ค่านั้นซ้ำ
2) ใช้ Conditional Formatting
- เลือกคอลัมน์ที่ต้องการตรวจสอบ
- ไปที่ Home → Conditional Formatting → Highlight Cells Rules → Duplicate Values
- เลือกสีไฮไลต์สำหรับค่าซ้ำ
3) ใช้สูตร UNIQUE (Excel 365/2021)
=UNIQUE(A2:A20)
แสดงเฉพาะค่าที่ไม่ซ้ำ และใช้ร่วมกับ COUNTIF เพื่อตรวจสอบความถี่ได้
4) รวม COUNTIF + IF
=IF(COUNTIF($A$2:$A$20, A2) > 1, "ซ้ำ", "ไม่ซ้ำ")
📥 ดาวน์โหลดไฟล์ตัวอย่างที่นี่ ⬇️
⚠️ ปัญหาที่พบบ่อย + วิธีแก้
- ค่าดูเหมือนซ้ำ แต่ Excel ไม่มองว่าเป็นซ้ำ → อาจมีช่องว่างเกิน แก้ด้วย TRIM หรือ CLEAN
- ค่าซ้ำเพราะ Upper/Lower Case → Excel ถือว่า “Apple” ≠ “apple”
- ข้อมูลข้ามชีต → ใช้
COUNTIF(Sheet1!A:A, A2)
🎯 ประโยชน์ของการหาค่าซ้ำ
- ทำให้ Data Cleansing ง่ายขึ้น
- เพิ่มความถูกต้องของรายงาน
- ประหยัดเวลาและลดข้อผิดพลาด
📝 สรุปส่งท้าย
สูตร Excel หาค่าซ้ำ เป็นเทคนิคที่ทุกคนควรรู้ ไม่ว่าจะใช้ COUNTIF เพื่อตรวจสอบความถี่, Conditional Formatting เพื่อไฮไลต์ข้อมูล หรือ UNIQUE เพื่อลดข้อมูลซ้ำ ฟังก์ชันเหล่านี้จะช่วยให้คุณจัดการฐานข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และพร้อมใช้งานจริงในงานวิเคราะห์หรือการทำรายงาน.





