How to Count Duplicates and Unique Values in Excel
การนับค่าที่ ซ้ำ และ ไม่ซ้ำ ใน Excel เป็นทักษะสำคัญสำหรับนักวิเคราะห์ข้อมูล เพราะช่วยให้คุณตรวจสอบคุณภาพข้อมูล (Data Cleaning) และสรุปรายงาน (Report) ได้แม่นยำมากขึ้น เช่น การหาว่ามีลูกค้ากี่รายที่ซื้อซ้ำ หรือมีสินค้ากี่ชนิดที่ไม่ซ้ำกันเลย
ใช้สูตรนี้เมื่อใด?
- เมื่ออยากรู้ว่ามีข้อมูล ซ้ำกันกี่ครั้ง เช่น รหัสลูกค้า
- เมื่ออยากหาจำนวนค่าที่ ไม่ซ้ำ เช่น ประเภทสินค้า
- เมื่อต้องการทำ Data Validation และ Data Cleaning

วิธีใช้พร้อมตัวอย่าง
1) นับค่าที่ซ้ำ (Duplicate)
สมมติว่ามีรายการชื่อลูกค้าในช่วง A2:A10
=SUMPRODUCT(COUNTIF(A2:A10, A2:A10)>1)
สูตรนี้จะนับจำนวนค่าที่ปรากฏซ้ำเกิน 1 ครั้ง
2) นับค่าที่ไม่ซ้ำ (Unique)
กรณี Excel 365/2021 ใช้ฟังก์ชันใหม่:
=COUNTA(UNIQUE(A2:A10))
จะได้จำนวนค่าที่ไม่ซ้ำในช่วงนั้น
3) สูตรเก่า (ไม่มี UNIQUE)
=SUM(1/COUNTIF(A2:A10,A2:A10))
สูตรนี้เป็น Array Formula (กด Ctrl+Shift+Enter ใน Excel เวอร์ชันเก่า)
4) นับค่าที่ซ้ำ + แสดงครั้งที่เกิด
=COUNTIF($A$2:A2,A2)
สูตรนี้ช่วยบอกว่าเป็นการปรากฏครั้งที่เท่าไหร่ เช่น ค่าซ้ำลำดับที่ 2, 3
ปัญหาที่พบบ่อย + วิธีแก้
- เจอช่องว่าง (Space) → ใช้
TRIM()จัดการก่อนนับ - เจออักขระพิเศษ เช่น CHAR(160) → ใช้
SUBSTITUTEลบออก - ไม่แยกพิมพ์เล็ก-ใหญ่ → ใช้
SUMPRODUCT(--EXACT(...))
ประโยชน์ของการนับค่าที่ซ้ำ / ไม่ซ้ำ
- ตรวจสอบ Data Quality ก่อนวิเคราะห์
- หาค่าที่ไม่ซ้ำเพื่อทำสรุปรายงาน เช่น ยอดขายต่อสินค้า
- ใช้สร้างตาราง PivotTable ที่แม่นยำ
สรุปส่งท้าย
การนับค่าที่ ซ้ำ และ ไม่ซ้ำ ใน Excel สามารถทำได้หลายวิธี ทั้งสูตรพื้นฐานอย่าง COUNTIF, สูตรขั้นสูงอย่าง SUMPRODUCT หรือฟังก์ชันใหม่อย่าง UNIQUE ขึ้นอยู่กับเวอร์ชัน Excel ที่คุณใช้ เทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้คุณตรวจสอบข้อมูลได้ง่ายขึ้น ทำความสะอาดข้อมูลได้ไวขึ้น และทำให้รายงานที่สร้างมีความถูกต้องมากกว่าเดิม 🚀





