ในโลกของการทำงานกับข้อมูลใน Excel ปัญหาที่เจอบ่อยคือ “ข้อความบางส่วนไม่ตรงตามที่ต้องการ” เช่น ต้องการแทนที่คำว่า “เก่า” ด้วยคำว่า “ใหม่” หรืออยากลบสัญลักษณ์บางตัวออกจากข้อความทั้งหมด นี่แหละคือหน้าที่ของ สูตร SUBSTITUTE ที่จะช่วยให้คุณจัดการข้อความได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

สูตร SUBSTITUTE คืออะไร?
สูตร SUBSTITUTE ใช้สำหรับ แทนที่ข้อความบางส่วนภายในเซลล์ ด้วยข้อความใหม่ โดยไม่กระทบส่วนอื่น ๆ ของข้อความ เหมาะมากเวลาเราต้องแก้ไขข้อมูลจำนวนมาก เช่น
- เปลี่ยนคำในเอกสาร
- ลบช่องว่างพิเศษ
- แก้ไขรหัสสินค้าให้ตรงรูปแบบ
รูปแบบการใช้สูตร
=SUBSTITUTE(text, old_text, new_text, [instance_num])
อธิบายพารามิเตอร์
- text : ข้อความหรือเซลล์ที่เราต้องการแก้ไข
- old_text : ข้อความเดิมที่ต้องการแทนที่
- new_text : ข้อความใหม่ที่ใช้แทน
- [instance_num] : (ไม่บังคับ) ลำดับของข้อความที่ต้องการแทนที่ หากไม่ใส่ ระบบจะแทนที่ทุกตำแหน่ง
ตัวอย่างการใช้งาน
1. แทนที่คำทั้งหมด
ถ้าต้องการเปลี่ยนคำว่า “ส้ม” เป็น “มะนาว” ในเซลล์ A1:
=SUBSTITUTE(A1, "ส้ม", "มะนาว")
2. ลบตัวอักษรบางตัว
ถ้าต้องการลบเครื่องหมายขีด (-) ในรหัสสินค้า:
=SUBSTITUTE(A1, "-", "")
3. แทนที่เฉพาะตำแหน่งที่กำหนด
ถ้าในข้อความมีคำว่า “apple” ซ้ำกันหลายครั้ง แต่ต้องการเปลี่ยนเฉพาะคำแรก:
=SUBSTITUTE(A1, "apple", "orange", 1)
เคล็ดลับเพิ่มประสิทธิภาพ
- ใช้ร่วมกับ TRIM เพื่อลบช่องว่างส่วนเกิน
- ใช้กับ UPPER/LOWER เพื่อเปลี่ยนรูปแบบตัวอักษรก่อนแทนที่
- รวมกับ TEXTJOIN หรือ CONCATENATE เพื่อปรับข้อมูลจำนวนมากในครั้งเดียว
ข้อดีของสูตร SUBSTITUTE
- ประหยัดเวลา ไม่ต้องแก้ทีละเซลล์
- ลดความผิดพลาดจากการพิมพ์เอง
- ใช้ได้ทั้งการแก้ไขข้อมูลเล็กน้อยและการจัดการข้อมูลจำนวนมาก
สรุป
สูตร SUBSTITUTE คือเพื่อนคู่ใจของคนทำงาน Excel ที่ต้องเจอกับข้อความไม่ตรงใจ แค่ใส่สูตรไม่กี่บรรทัด คุณก็สามารถเปลี่ยน ลบ หรือแก้ไขคำได้ทันทีโดยไม่ต้องเหนื่อยแก้มือ สูตรนี้เหมาะทั้งมือใหม่และมือเก๋า อยากให้ลองใช้ดู แล้วจะรู้ว่าการจัดการข้อความใน Excel มันง่ายและเร็วขนาดไหน





