“คิดผลรวมได้ดั่งใจ! สูตร SUMIF Excel หาผลรวมตามเงื่อนไข”
“Get the Total You Want! Excel SUMIF Formula for Conditional Sums”
หลายครั้งที่เราทำงานกับ Excel เราไม่ได้อยากหาผลรวมของตัวเลขทั้งหมด แต่ต้องการผลรวมเฉพาะ ตามเงื่อนไขบางอย่าง เช่น ยอดขายของสินค้าชนิดใดชนิดหนึ่ง, ผลรวมเฉพาะเดือนที่ต้องการ หรือยอดรวมของพนักงานเฉพาะแผนก ซึ่งการบวกทีละค่าไม่เพียงเสียเวลา แต่ยังมีโอกาสผิดพลาดสูงอีกด้วย 😵💫
สูตร SUMIF จึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้การหาผลรวมตามเงื่อนไขกลายเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว ใช้ได้ทั้งสำหรับมือใหม่และมือโปร 🚀

🔍 ทำไมต้องใช้สูตรนี้?
- ลดเวลาคำนวณข้อมูลจำนวนมาก
- ใช้ง่ายและยืดหยุ่น เหมาะกับงานจริงทุกประเภท
- หาผลรวมแบบกำหนดเงื่อนไข เช่น เฉพาะสินค้า, วันที่, พนักงาน หรือแผนก
- ป้องกันข้อผิดพลาดจากการเลือกบวกลบด้วยมือ
🕒 ใช้สูตรนี้เมื่อใด?
- ต้องการหายอดขายเฉพาะสินค้าใดสินค้าหนึ่ง
- ต้องการรวมค่าใช้จ่ายเฉพาะเดือนหรือหมวดหมู่
- ต้องการหาผลรวมจากเงื่อนไขเช่น “มากกว่า 1000” หรือ “เท่ากับ A”
- ต้องการทำรายงานแบบมีเงื่อนไขอัตโนมัติ
🧮 โครงสร้างสูตร
=SUMIF(range, criteria, [sum_range])
- range = ช่วงข้อมูลที่ใช้ตรวจสอบเงื่อนไข
- criteria = เงื่อนไข เช่น “=A”, “>1000”
- sum_range = ช่วงข้อมูลที่ต้องการรวม (หากไม่ใส่ จะรวมจาก range โดยตรง)
📝 ตัวอย่างการใช้งาน
1) หาผลรวมยอดขายของสินค้า “ปากกา”
ตารางสินค้า:
สินค้า | ยอดขาย |
---|---|
ดินสอ | 100 |
ปากกา | 150 |
สมุด | 200 |
ปากกา | 120 |
สูตร:
=SUMIF(A2:A5,"ปากกา",B2:B5)
ผลลัพธ์: 270 (รวมยอดขายปากกา)
2) หาผลรวมยอดขายที่มากกว่า 100
=SUMIF(B2:B5,">100")
ผลลัพธ์: 470 (รวมเฉพาะค่ามากกว่า 100)
⚠️ ปัญหาที่พบบ่อยและวิธีแก้
- ผลลัพธ์ไม่ตรง → ตรวจสอบว่า range และ sum_range มีขนาดเท่ากัน
- ใช้เงื่อนไขไม่ถูกต้อง → ต้องใส่เครื่องหมาย “ ” ครอบ เช่น “>100”
- ไม่เจอข้อความที่ต้องการ → ตรวจสอบว่าใช้การพิมพ์ตรง (Case Sensitive ไม่เกี่ยว แต่ต้องสะกดตรงกัน)
✅ สรุป
สูตร SUMIF คือเครื่องมือที่ทำให้การคำนวณผลรวมตามเงื่อนไขใน Excel เป็นเรื่องง่ายและแม่นยำ ✨
ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ที่อยากหายอดรวมของสินค้าหนึ่งชนิด หรือมือโปรที่ต้องทำรายงานซับซ้อน สูตรนี้ช่วยคุณประหยัดเวลาและลดความผิดพลาดได้แน่นอน 💯